เชื้อโรค สิ่งสกปรก บอกลาได้ด้วยการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าหรือฝาบนให้ถูกวิธี

วิธีการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าและฝาบน แตกต่างกันอย่างไร ควรล้างให้ถูกต้อง ป้องกันเชื้อโรคสะสม

อย่างที่ใคร ๆ ก็รู้กันดีว่าเครื่องซักผ้านั้นมีหน้าที่ทำความสะอาดเครื่องนุ่งห่มหรือผืนผ้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า, ผ้าห่ม, ผ้าเช็ดตัว, ผ้าขนหนู, หรือผ้าปูที่นอนและปลอกหมอน เพื่อให้กลับมาหอมสะอาด และปราศจากฝุ่นหรือเชื้อโรคต่าง ๆ ก่อนที่จะนำมาใส่อีกครั้ง ซึ่งหากต้องการให้เครื่องซักผ้าทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ ก็จำเป็นต้องล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้า รวมทั้งล้างเครื่องซักผ้าฝาบนเป็นประจำ

เมื่อใช้เครื่องซักผ้ามาเป็นระยะเวลานานย่อมเกิดการสะสมของสิ่งสกปรก เศษผ้า รวมไปถึงเชื้อโรคหรือแบคทีเรียต่าง ๆ ที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย อีกทั้งเครื่องซักผ้ายังเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำงานร่วมกับน้ำ จึงสามารถเกิดกลิ่นอับจากความชื้นได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าหรือฝาบนจะช่วยขจัดกลิ่นและสิ่งสกปรกได้อย่างหมดจด

ส่วนวิธีการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าและวิธีการล้างเครื่องซักผ้าฝาบนนั้นก็มีอยู่หลากหลายวิธีให้เลือกใช้ นอกจากนี้ยังมีวิธีการล้างที่แตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสม โดยข้อมูลเหล่านี้เราก็ได้รวบรวมมาให้คุณได้อ่านกันแล้ว แถมยังมีแนวทางการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าและฝาบนได้อย่างสะอาดเอี่ยมภายในเวลาเพียงไม่นานมาแนะนำให้กับคุณอีกด้วย



ประโยชน์ของการล้างเครื่องซักผ้า

ไม่ว่าจะเป็นการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าหรือการล้างเครื่องซักผ้าฝาบนก็ตาม ล้วนทำให้เกิดประโยชน์ต่าง ๆ ได้มากมายไม่ต่างกัน เพราะการล้างเครื่องซักผ้านั้นก็คือการทำความสะอาดเครื่องซักผ้าโดยการล้างถังซักที่อยู่ในเครื่องนั่นเอง ซึ่งประโยชน์ที่จะได้รับจากการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าหรือฝาบนมีดังนี้

  • ช่วยขจัดสิ่งสกปรก เศษผ้า หรือเชื้อโรคต่าง ๆ ที่ตกค้างและสะสมอยู่ภายในถังซักของเครื่องซักผ้า ซึ่งจะทำให้ผ้าที่ซักนั้นสะอาดหมดจด รวมถึงไม่เหลือเชื้อโรคใด ๆ ตกค้างไว้ที่เสื้อผ้า
  • ขจัดกลิ่นอับที่เกิดขึ้นจากความชื้นภายในถังซัก เนื่องจากเครื่องซักผ้าจำเป็นต้องทำงานร่วมกับน้ำ จึงทำให้มีโอกาสที่น้ำจะยังคงติดค้างอยู่ตามซอกหลืบต่าง ๆ จนส่งผลให้ภายในถังซักเกิดความชื้นและก่อเกิดกลิ่นอับขึ้น
  • ซักผ้าได้อย่างสะอาดหมดจดและช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผ้านั้นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะถ้าหากว่าภายในถังซักมีสิ่งสกปรกสะสมอยู่มาก ก็จะทำให้เสื้อผ้าที่ซักไม่สะอาดเท่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากเศษสิ่งสกปรกที่ตกค้างอาจหลุดออกมาติดกับเสื้อผ้าที่ซักได้
  • ช่วยถนอมและยืดอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้า เพราะหากปล่อยให้สิ่งสกปรกสะสมนานจนกลายเป็นคราบสกปรกฝังแน่น ก็จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของเครื่องซักผ้าได้โดยตรง แถมยังอาจกำจัดออกได้ยากจนเป็นเหตุให้ต้องซื้อเครื่องซักผ้าใหม่แทน

รู้ได้อย่างไรว่าควรล้างเครื่องซักผ้าแล้ว

รู้ได้อย่างไรว่าควรล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าหรือฝาบนแล้ว

เครื่องซักผ้าไม่เพียงแค่ทำงานร่วมกับน้ำเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผ้าต่าง ๆ ด้วย เช่น ผงซักฟอก หรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะมีการตกค้างครั้งละเล็กครั้งละน้อย จนเมื่อเวลาผ่านไปก็จะเกิดการสะสมจนกลายมาเป็นสิ่งสกปรกตกค้างตามซอกมุมต่าง ๆ ภายในถังซักของเครื่องซักผ้า นอกจากนี้สิ่งสกปรกที่ตกค้างในบางกรณียังอาจรวมไปถึงเศษขุยผ้า คราบฝุ่น หรือเซลล์ผิวหนังที่ติดอยู่บนเสื้อผ้าได้เช่นกัน

โดยสิ่งที่จะบ่งชี้ได้ว่าควรล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าหรือล้างเครื่องซักผ้าฝาบนของคุณนั้นได้แก่

  • การมีเศษสิ่งสกปรกเล็ก ๆ หรือคราบสิ่งสกปรกคล้ายกับคราบฝุ่นปรากฏขึ้นบนเสื้อผ้าที่เพิ่งซักเสร็จ
  • การที่มีกลิ่นอับอยู่ภายในถังซัก ซึ่งอาจส่งผลให้มีกลิ่นอับติดอยู่บนเสื้อผ้าตามไปด้วย

ความแตกต่างและวิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้ากับเครื่องซักผ้าฝาบน 

ความแตกต่างของเครื่องซักผ้าฝาหน้าและฝาบน

เหตุผลที่ทำให้วิธีการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าและวิธีการล้างเครื่องซักผ้าฝาบนมีความแตกต่างกันนั้น หลัก ๆ แล้วก็เพราะว่าระบบการทำงานของเครื่องซักผ้าทั้ง 2 รูปแบบนี้ไม่เหมือนกันนั่นเอง แม้ว่าการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าและการล้างเครื่องซักผ้าฝาบนนั้นจะเป็นการทำความสะอาดถังซักด้านในเครื่องซักผ้าเหมือนกันก็ตาม 

ดังนั้นจึงควรทำความรู้จักระบบการทำงานและเข้าใจถึงจุดที่แตกต่างกันของเครื่องซักผ้าทั้ง 2 รูปแบบเสียก่อน ซึ่งในหัวข้อนี้เราจะมาบอกรายละเอียด, คุณสมบัติ และระบบการทำงานของเครื่องซักผ้า รวมไปถึงแนะนำวิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าและวิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาบนให้ดูกันว่า สามารถใช้วิธีไหนหรือผลิตภัณฑ์ใดในการล้างเครื่องซักผ้าได้บ้าง

เครื่องซักผ้าฝาหน้า

เครื่องซักผ้าฝาหน้า

เครื่องซักผ้าฝาหน้าเป็นเครื่องซักผ้าที่มีราคาค่อนข้างสูง โดยมีลักษณะเป็นเครื่องซักผ้าที่มีประตูอยู่ทางด้านหน้าของตัวเครื่อง และอยู่ในตำแหน่งที่ไม่สูง จึงทำให้ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุและผู้ที่มีปัญหาบาดเจ็บบริเวณหลังหรือเข่าเท่าไหร่นัก ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นเครื่องซักผ้าฝาหน้าก็ยังคงได้รับความนิยมมาก เนื่องจากมีระบบการทำงานแบบหมุนถังซักไปกลับด้วยความเร็วการปั่นประมาณ 1,400 รอบต่อนาที 

อีกทั้งยังสามารถกำหนดการทำงานให้เหมาะสมกับเนื้อผ้าที่ต้องการซักได้ ทำให้ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดของเครื่องซักผ้าฝาหน้านั้นดีแม้จะเป็นคราบสกปรกฝังแน่น และช่วยถนอมผ้าไม่ให้เสียทรง นอกจากนี้ยังใช้ปริมาณน้ำในการซักไม่มาก รวมถึงมีเสียงรบกวนที่ค่อนข้างเงียบ แต่ก็ต้องแลกมากับระยะเวลาในการซักที่นานมากทีเดียว

ข้อดี

  • ซักผ้าได้สะอาดล้ำลึก และช่วยถนอมผ้าไม่ให้เสียทรง
  • สามารถปั่นหมาดผ้าได้แห้ง ด้วยความเร็วในการปั่นที่มากกว่า
  • เลือกรูปแบบการทำงานที่เหมาะสมกับเนื้อผ้าได้
  • ประหยัดน้ำสำหรับซักผ้า
  • เครื่องทำงานค่อนข้างเงียบ เสียงรบกวนไม่ดัง

ข้อเสีย

  • มีราคาที่ค่อนข้างสูง
  • ใช้ระยะเวลาในการซักค่อนข้างนาน

วิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้า ด้วยน้ำส้มสายชู

  1. ชุบน้ำส้มสายชูด้วยผ้าขนหนูหรือเศษผ้าที่ต้องการให้ชุ่มทั่วผืน
  2. นำผ้าที่ชุบน้ำส้มสายชูเอาไว้ใส่เข้าไปในเครื่องซักผ้า ก่อนที่จะเปิดใช้งานระบบปั่นหมาดเป็นเวลา 5-10 นาที เพื่อทำให้น้ำส้มสายชูกระจายไปทั่ว ๆ ถังซักของเครื่องซักผ้า
  3. หลังจากที่ระบบปั่นหมาดทำงานเสร็จสิ้น ก็ปล่อยผ้าทิ้งไว้ภายในเครื่องซักผ้าต่อเป็นเวลา 1-2 ชั่วโมง
  4. เมื่อครบเวลาที่กำหนดแล้ว จึงค่อยนำผ้าชุบน้ำส้มสายชูออกมา ก่อนที่จะเปิดใช้งานระบบซักผ้าแบบปกติ เพื่อทำความสะอาดเครื่องซักผ้าและกลิ่นน้ำส้มสายชูภายในเครื่อง

วิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้า ด้วยเบคกิ้งโซดา

  1. นำเทเบคกิ้งโซดา 300 กรัม แบ่งส่วนหนึ่งใส่ลงไปยังช่องผงซักฟอก และอีกส่วนหนึ่งก็นำไปโรยให้ทั่วถังซักของเครื่องซักผ้า ก่อนที่จะเปิดใช้งานระบบซักผ้าเป็นเวลา 2-3 นาที หรือจนกว่าเบคกิ้งโซดาจะละลาย
  2. เมื่อครบเวลาปั่นที่กำหนด หรือเบคกิ้งโซดาละลายจนหมดแล้ว ก็ค่อยกดหยุดการทำงานเอาไว้เพื่อปล่อยให้เบคกิ้งโซดาทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ตกค้างภายในเครื่องเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
  3. หลังจากที่ปล่อยทิ้งไว้จนครบเวลาที่กำหนด จึงค่อยกดให้ระบบซักผ้าทำงานต่อ เพื่อล้างสิ่งสกปรกและเบคกิ้งโซดาออก 

วิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้า ด้วยกรดมะนาว

  1. นำกรดมะนาว 100 กรัมลงไปละลายในน้ำร้อนที่เพิ่งผ่านการต้มมาจนเดือด แล้วจึงทิ้งไว้ให้เย็นลง
  2. นำกรดมะนาวที่ละลายแล้วใส่ลงไปยังช่องผงซักฟอก
  3. เริ่มต้นใช้งานระบบซักผ้าเป็นเวลา 5 นาที หลังจากนั้นจึงค่อยกดหยุดการทำงานเอาไว้ เพื่อให้กรดมะนาวได้ทำความสะอาดถังซักเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
  4. เมื่อปล่อยทิ้งไว้จนครบเวลาที่กำหนด จึงค่อยกดให้ระบบซักผ้าทำงานต่อ เพื่อล้างสิ่งสกปรกออก

เครื่องซักผ้าฝาบน

เครื่องซักผ้าฝาบน

เครื่องซักผ้าฝาบนเป็นเครื่องซักผ้าที่มีราคาถูกกว่าเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับเครื่องซักผ้าฝาหน้า ซึ่งมีลักษณะเป็นเครื่องซักผ้าที่มีประตูอยู่ทางด้านบนของตัวเครื่อง ทำให้สามารถใส่ผ้าและเก็บผ้าออกได้สะดวกกว่า แต่กลับแลกมาด้วยเสียงรบกวนค่อนข้างดังและใช้ปริมาณน้ำในการซักผ้าค่อนข้างมาก

ส่วนระบบการทำงานนั้นจะมีรูปแบบหมุนบิดถังซักด้วยความเร็วการปั่นประมาณ 850 รอบต่อนาที ทำให้ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดของเครื่องซักผ้าฝาบนไม่ได้ดีเลิศเท่ากับเครื่องซักผ้าฝาหน้า อีกทั้งยังปั่นหมาดได้ไม่แห้งเท่าไรนัก และยังสร้างความเสียหายต่อผ้าจากแรงเหวี่ยงได้อีกด้วย แต่ระยะเวลาที่ใช้ในการซักถือว่าดีทีเดียว เพราะใช้เวลาเพียงไม่นาน

ข้อดี

  • มีราคาถูกกว่าเครื่องซักผ้าฝาหน้า
  • ใช้ระยะเวลาในการซักเพียงไม่นาน
  • ตัวเครื่องมีความแคบและเล็กกว่า ทำให้สามารถตั้งในบริเวณที่มีพื้นที่ไม่มากได้
  • หยิบใส่ผ้าเข้าออกเครื่องได้อย่างสะดวก

ข้อเสีย

  • ผ้าอาจเสียหายจากการบิดและเหวี่ยง
  • ใช้ปริมาณน้ำในการซักค่อนข้างมาก
  • มีเสียงรบกวนค่อนข้างดัง
  • รูปแบบการทำงานมีจำกัด

วิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาบน ด้วยน้ำส้มสายชู

  1. เปิดใช้งานระบบซักผ้าโดยเลือกระดับน้ำสูงสุด หรืออาจเลือกใช้งานเป็นระบบน้ำร้อน
  2. ใส่น้ำส้มสายชู 500 มิลลิลิตร ลงไปในเครื่องซักผ้าแล้วจึงปิดฝาเครื่องให้เรียบร้อย
  3. ให้เครื่องซักผ้าเริ่มต้นระบบซักผ้าเป็นเวลา 3-4 นาทีแล้วจึงค่อยหยุดการทำงานเอาไว้ เพื่อปล่อยให้น้ำส้มสายชูได้ทำความสะอาดและขจัดเชื้อแบคทีเรียภายในถังซักออกเป็นเวลา 1-2 ชั่วโมง
  4. หลังจากที่ปล่อยทิ้งไว้จนครบเวลาที่กำหนดแล้ว จึงค่อยกดให้ระบบซักผ้าทำงานต่อ เพื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรกภายในถังซักและกลิ่นน้ำส้มสายชูออก

วิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาบน ด้วยเบคกิ้งโซดา

  1. เปิดใช้งานระบบซักผ้าโดยเลือกระดับน้ำสูงสุด
  2. ใส่เบคกิ้งโซดาจำนวน 300 กรัม ลงไปในเครื่องซักผ้าแล้วจึงปิดฝาเครื่องให้เรียบร้อย ก่อนที่จะเปิดใช้งานระบบซักผ้าเป็นเวลา 10 นาที หรือจนกว่าเบคกิ้งโซดาจะละลาย
  3. เมื่อครบเวลาปั่นที่กำหนดหรือเบคกิ้งโซดาละลายจนหมดแล้ว ก็ค่อยกดหยุดการทำงานเอาไว้ เพื่อปล่อยให้เบคกิ้งโซดาทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ตกค้างภายในเครื่องเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
  4. หลังจากที่ปล่อยทิ้งไว้จนครบเวลาที่กำหนด จึงค่อยกดให้ระบบซักผ้าทำงานต่อ เพื่อล้างสิ่งสกปรกและเบคกิ้งโซดาออก

วิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาบน ด้วยกรดมะนาว

  1. นำกรดมะนาว 100 กรัมลงไปละลายในน้ำร้อนที่เพิ่งผ่านการต้มมาจนเดือด
  2. เปิดใช้งานระบบซักผ้าโดยเลือกระดับน้ำสูงสุด และรอจนกว่าน้ำจะสูงจนถึงครึ่งถัง ก่อนที่จะนำกรดมะนาวที่ละลายแล้วลงไปในเครื่องซักผ้า
  3. เริ่มต้นใช้งานระบบซักผ้าเป็นเวลา 5 นาที หลังจากนั้นจึงค่อยกดหยุดการทำงานเอาไว้ เพื่อให้กรดมะนาวได้ทำความสะอาดถังซักเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
  4. เมื่อปล่อยทิ้งไว้จนครบเวลาที่กำหนด จึงค่อยกดให้ระบบซักผ้าทำงานต่อ เพื่อล้างสิ่งสกปรกออก

แนะนำทางออก ล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าและฝาบนอย่างไรให้สะอาดด้วยเวลาอันรวดเร็ว

หลังจากที่ได้อ่านวิธีการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าและวิธีการล้างเครื่องซักผ้าฝาบนกันไปแล้ว จะเห็นได้เลยว่าจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างมาก แถมยังยุ่งยากวุ่นวายอีกด้วย แต่เราก็ยังมีทางออกดี ๆ สำหรับปัญหานี้เช่นกัน ที่จะช่วยให้การล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าหรือฝาบนของคุณนั้นกลายเป็นเรื่องง่าย ๆ แสนสะดวก อีกทั้งยังใช้เวลาเพียงไม่นานก็ได้เครื่องซักผ้าที่สะอาดพร้อมใช้งาน

1. ใช้ฟังก์ชันล้างถังซัก

ในปัจจุบันนี้มีเครื่องซักผ้ามากมายที่มีระบบหรือฟังก์ชันพิเศษที่สามารถล้างถังซักภายในเครื่องซักผ้าได้ ทำให้การล้างถังซักผ้าฝาหน้าและการล้างถังซักผ้าฝาบนทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่กดปุ่ม แต่ข้อจำกัดของฟังก์ชันนี้ก็คือจะเป็นการล้างเครื่องซักผ้าโดยใช้น้ำร้อนเพียงเท่านั้น ส่งผลให้สิ่งสกปรกที่ตกค้างบางส่วนหรือคราบสกปรกต่าง ๆ ไม่สามารถหลุดออกไปได้เท่าที่ควร

2. ใช้บริการล้างเครื่องซักผ้า

สำหรับผู้ที่ต้องการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าหรือล้างเครื่องซักผ้าฝาบนได้อย่างสะอาดหมดจดทุกซอกมุม แถมยังสะดวกสบายและใช้เวลาเพียงไม่นาน การเลือกใช้บริการล้างเครื่องซักผ้าจึงสามารถตอบโจทย์ได้อย่างดีทีเดียว เนื่องจากคุณจะไม่จำเป็นต้องเตรียมอุปกรณ์หรือผลิตภัณฑ์อะไรมากมาย รวมถึงไม่ต้องยุ่งยากเตรียมการต่าง ๆ และเสียเวลารอคอยนานหลายชั่วโมงเพื่อให้ได้เครื่องซักผ้าที่สะอาดถูกใจ 

นอกจากนี้การล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าและการล้างเครื่องซักผ้าฝาบนบางวิธี ยังจำเป็นต้องดำเนินการโดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเท่านั้น เพื่อให้หลังจากที่ทำความสะอาดแล้วเครื่องซักผ้าจะยังสามารถใช้งานได้ดีดังเดิม ยกตัวอย่างเช่นการนำถังซักของเครื่องซักผ้าออกมาล้างทำความสะอาดภายนอกเครื่องนั่นเอง

ซึ่งบริการล้างเครื่องซักผ้าที่ Q-CHANG จะทำให้คุณมั่นใจได้เลยว่าเครื่องซักผ้าของคุณจะได้รับการทำความสะอาดและดูแลอย่างดีที่สุดโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ อีกทั้งยังมีมาตรฐาน บริการรวดเร็วทันใจ รวมไปถึงล้างสะอาดสุด ๆ ด้วยการทำความสะอาดตั้งแต่ต้นตอของปัญหา เพื่อไม่ให้หลงเหลือสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ภายใน นอกจากนี้ยังพร้อมบริการตรวจเช็กประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องซักผ้าให้แก่คุณอีกด้วย

บริการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าและฝาบนโดยช่างผู้เชี่ยวชาญจาก Q-CHANG

สรุปความแตกต่างของการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าและฝาบน

ระบบการทำงานของเครื่องซักผ้าฝาหน้าและเครื่องซักผ้าฝาบนที่แตกต่างกัน ส่งผลให้วิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าและวิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาบนมีความแตกต่างกันตามไปด้วย ซึ่งระบบการทำงานที่ซับซ้อนของเครื่องซักผ้านั้นทำให้ตระหนักได้ว่าการล้างเครื่องซักผ้าควรล้างให้ถูกต้อง เพื่อให้เครื่องซักผ้าสะอาดเอี่ยมอ่อง ไม่มีสิ่งตกค้าง รวมถึงยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น

ซึ่งที่ Q-CHANG เรามีบริการล้างเครื่องซักผ้าฝาบนและฝาหน้าที่ได้มาตรฐาน ทั้งยังให้บริการโดยช่างมืออาชีพผู้เชี่ยวชาญ ไว้วางใจได้ถึงความสะอาดหมดจดในทุกซอกทุกมุม รวมถึงมีบริการตรวจเช็กการทำงานของเครื่องซักผ้าแบบฟรี ๆ กว่า 10 รายการ นอกจากนี้ยังรับประกันหลังใช้บริการนานถึง 30 วันอีกด้วย หากสนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่