ทำความรู้จักฝ้ากันน้ำ

ฝ้ากันน้ำ ทางเลือกในการป้องกันเชื้อราและความชื้น เพื่อบ้านที่ปลอดภัยมากกว่า!

ความชื้นและเชื้อราในบ้านเป็นสิ่งที่หลายครอบครัวต้องเจอ โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีสภาพอากาศร้อนชื้น เมื่อฝนตกหนัก น้ำมักจะซึมผ่านฝ้าเพดาน ก่อให้เกิดคราบเชื้อราที่ทำลายความสวยงามของบ้านและส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย ในปัจจุบัน นวัตกรรมวัสดุก่อสร้างได้พัฒนาไปอย่างมาก และแผ่นฝ้ากันน้ำก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในเมืองร้อนได้อย่างลงตัว 

ด้วยคุณสมบัติพิเศษของฝ้าแบบกันน้ำที่สามารถป้องกันความชื้นและลดการเกิดเชื้อรา ทำให้บ้านของคุณไม่เพียงแต่ดูสวยงามและทันสมัย แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับสุขภาพของทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะในบ้านที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ ซึ่งปัญหาเรื่องความชื้นและเชื้อราควรได้รับการแก้ไขตั้งแต่ต้นเหตุ ด้วยการเลือกใช้วัสดุฝ้าที่ออกแบบมาเพื่อรับมือกับเรื่องนี้อย่างมีประสิทธิภาพ


หากไม่ใช้ฝ้ากันน้ำจะเกิดผลเสียอย่างไรต่อบ้านบ้าง?

ฝ้าเพดานเป็นส่วนหนึ่งของบ้านที่มักถูกมองข้าม แต่กลับมีบทบาทสำคัญในการรักษาคุณภาพอากาศภายในบ้าน หากเราเลือกใช้วัสดุที่ไม่เหมาะสม เช่น ฝ้าที่ไม่กันน้ำ ความชื้นก็จะสะสมและก่อให้เกิดปัญหาเชื้อราตามมา โดยการไม่ใช้ฝ้ากันน้ำสามารถก่อให้เกิดปัญหาได้ ดังนี้

1. เกิดเชื้อราและคราบสกปรก

เมื่อความชื้นสะสมบนฝ้าที่ไม่มีคุณสมบัติกันน้ำจะก่อให้เกิดปัญหาเชื้อราที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศไม่ดีหรือได้รับแสงแดดน้อย เชื้อราเหล่านี้จะปรากฏให้เห็นเป็นจุดดำเล็ก ๆ ก่อนขยายวงกว้างและฝังลึกในเนื้อวัสดุ นอกจากนี้ สปอร์ของเชื้อรายังสามารถลอยไปในอากาศและแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ส่งผลให้คุณภาพอากาศภายในบ้านแย่ลง และกระตุ้นอาการแพ้หรือปัญหาระบบทางเดินหายใจในผู้อยู่อาศัยได้

ถ้าไม่ได้ใช้ฝ้าที่โดนน้ำได้ ฝ้าเพดานจะดึงดูดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกให้เข้ามาเกาะติด กลายเป็นคราบเหลืองหรือคราบดำหากมีความชื้นสะสม การทำความสะอาดด้วยวิธีปกติก็มักไม่ได้ผล คราบเหล่านี้จะทำให้บ้านดูเก่า ขาดความสวยงาม และทรุดโทรมจนต้องซ่อมฝ้าเพดาน ซึ่งส่งผลต่อทั้งสภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยและมูลค่าของบ้าน

2. มีกลิ่นอับภายในบ้าน

หากไม่ใช้ฝ้าเพดานกันน้ำ กลิ่นอับชื้นภายในบ้านจะเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ โดยเมื่อฝ้าเพดานดูดซับความชื้นจากอากาศหรือน้ำที่รั่วซึม จะกลายเป็นแหล่งสะสมของจุลินทรีย์และเชื้อราที่เติบโตอย่างรวดเร็วในสภาพแวดล้อมที่ชื้นแฉะ สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเหล่านี้จะปล่อยสารระเหยอินทรีย์ (VOCs) ออกมา ก่อให้เกิดกลิ่นอับชื้นและยากต่อการกำจัด แม้จะเปิดหน้าต่างระบายอากาศหรือใช้น้ำหอมปรับอากาศ กลิ่นอับก็จะกลับมาอีกครั้งเมื่อปิดห้อง เพราะต้นตอของปัญหายังคงอยู่ในโครงสร้างของฝ้าเพดาน

กลิ่นอับชื้นเหล่านี้ยังสามารถแทรกซึมเข้าไปในเฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน พรม และเสื้อผ้าที่เก็บไว้ภายในบ้าน ทำให้ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ติดตามไปด้วย บางครั้งอาจต้องซักล้างหรือทำความสะอาดบ่อยครั้งกว่าปกติ ซึ่งนอกจากจะเป็นการสิ้นเปลืองทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายแล้ว การซักล้างบ่อย ๆ ยังอาจทำให้วัสดุเสื่อมสภาพเร็วขึ้นอีกด้วย 

3. เพิ่มภาระในการซ่อมแซมบ้าน

การใช้ฝ้าเพดานไม่กันน้ำอาจดูประหยัดในตอนแรก แต่จะกลายเป็นภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาว เมื่อความชื้นและน้ำรั่วซึมเริ่มทำลายโครงสร้างของฝ้าเพดานจนเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นฝ้าบวม รอยแตกร้าว หรือการหลุดร่วงของวัสดุ ซึ่งต้องได้รับการซ่อมฝ้าเพดานน้ำรั่วอย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น การซ่อมแซมแต่ละครั้งต้องเสียทั้งค่าวัสดุ ค่าแรงช่าง และยังต้องย้ายข้าวของ ปิดพื้นที่ใช้งาน หรืออาจต้องทาสีใหม่ทั้งห้องเพื่อให้สีกลมกลืนกัน ทำให้เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายมากกว่าที่ควรจะเป็น

ที่สำคัญ หากยังใช้ฝ้าแบบไม่กันน้ำ ปัญหาก็จะวนเวียนกลับมาอีก ทำให้ต้องซ่อมแซมซ้ำแล้วซ้ำเล่า บางครั้งความเสียหายอาจลุกลามไปถึงโครงสร้างอื่น ๆ ของบ้าน เช่น คาน ผนัง หรือระบบไฟฟ้าที่ซ่อนอยู่เหนือฝ้า ทำให้ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบานปลาย และอาจสูงกว่างบประมาณที่ใช้ในการติดตั้งฝ้ากันน้ำคุณภาพดีตั้งแต่แรกหลายเท่าตัว 


ประเภทของฝ้ากันน้ำมีกี่แบบ แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร?

ประเภทของแผ่นฝ้ากันน้ำ

ปัจจุบันมีฝ้ากันน้ำให้เลือกหลายประเภท แตกต่างกันตามวัสดุที่ใช้ในการผลิต โดยสามารถแบ่งได้ตามลักษณะการใช้งานหลัก ๆ ดังนี้ 

ฝ้าภายใน ได้แก่ 

  • ฝ้ายิปซั่มเสริมฟอยหรือสารกันชื้น เป็นนวัตกรรมฝ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานในสภาพอากาศแปรปรวน มีคุณสมบัติสะท้อนรังสีความร้อนและทนทานต่อความชื้น มีทั้งแบบเรียบและแบบมีรูระบายอากาศ เหมาะสำหรับงานอสังหาริมทรัพย์ทั้งเชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัยที่ต้องการความสวยงามไร้รอยต่อ ควบคู่กับประสิทธิภาพการป้องกันความร้อนที่เหนือชั้น

ฝ้าภายนอก ได้แก่ 

  • ฝ้าไวนิล UPVC ผลิตจากวัสดสังเคราะห์คุณภาพสูง ทนทานต่อทกสภาพอากาศ มีคุณสมบัติกันน้ำและความชื้นได้ ป้องกันปลวกและเชื้อรา น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย มีให้เลือกหลากหลายลวดลาย เหมาะสำหรับพื้นที่ทั้งภายในและภายนอก
  • ฝ้าอะภูมิเนียม มีโครงสร้างแข็งแรง ไม่บิด ทนทานต่อน้ำและแสงแดด ไม่เป็นสนิม อายุการใช้งานยาวนาน ดูแลรักษาง่าย เหมาะกับพื้นที่ขนาดใหญ่ 
  • ฝ้าระแนงกันน้ำ ทำจากวัสดุสังเคราะห์เลียนแบบลายไม้ ทนต่อสภาพอากาศภายนอก ระบายอากาศ

ได้ดี กันน้ำและความชื้น ป้องกันปลวกได้ เหมาะสำหรับติดตั้งใต้ชายคาและพื้นที่ภายนอก

  • ฝ้าไฟเบอร์ซีเมนต์ชนิดกันน้ำ ผลิตจากซีเมนต์ผสมเส้นใยพิเศษ ทนทานต่อความชื้นสูง แข็งแรง ไม่

แตกร้าวง่าย สามารถทาสีทับได้ เหมาะสำหรับพื้นที่เปียกชื้นหรือการใช้เป็นฝ้าเพดานห้องน้ำ กันชื้น 


ข้อดีของการใช้ฝ้ากันน้ำ เพื่อบ้านที่สวยงามและปลอดภัยในทุกฤดูกาล

การใช้ฝ้ากันน้ำถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับบ้านในเมืองไทย ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อลดความชื้นและน้ำรั่วซึม ฝ้าชนิดนี้จึงเป็นเหมือนเกราะป้องกันชั้นดีที่ช่วยปกป้องบ้านจากปัญหาต่าง ๆ ที่มักเกิดขึ้นในฤดูฝน ไม่ว่าจะเป็นการรั่วซึม การเกิดเชื้อรา หรือความชื้นสะสม 

นอกจากนี้ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ฝ้าแบบป้องกันน้ำในปัจจุบันจึงมาพร้อมดีไซน์ที่สวยงาม หลากหลายรูปแบบ ทำให้เจ้าของบ้านสามารถเลือกแบบที่เข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้านได้อย่างลงตัว พร้อมทั้งยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับบ้านในระยะยาวอีกด้วย


เลือกฝ้ากันน้ำอย่างไร ให้เหมาะกับบ้านของคุณมากที่สุด?

ฝ้าที่โดนน้ำได้

การเลือกฝ้ากันน้ำต้องพิจารณาหลายปัจจัยประกอบกัน เริ่มจากการประเมินสภาพแวดล้อมของบ้าน ทั้งทำเลที่ตั้ง สภาพภูมิอากาศในพื้นที่ และลักษณะการใช้งานของแต่ละห้อง เช่น พื้นที่เปียกอย่างห้องน้ำหรือห้องครัวอาจต้องการฝ้าที่มีคุณสมบัติต้านทานความชื้นสูงเป็นพิเศษ ในขณะที่ฝ้าสำหรับพื้นที่ภายนอกต้องเลือกวัสดุที่ทนแดดและฝนได้ดี 

นอกจากนี้ ควรคำนึงถึงโครงสร้างของตัวบ้าน น้ำหนักที่หลังคาและคานรับน้ำหนักสามารถรองรับได้ รวมถึงระบบการระบายอากาศภายในบ้าน และควรเลือกฝ้าจากผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม มีการรับประกันสินค้าที่ชัดเจน และมีบริการหลังการขายที่น่าเชื่อถือ ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาวในการซ่อมแซมและบำรุงรักษา รวมถึงใช้เทคนิคการติดตั้งที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ฝ้าเพดานที่สวยงามและใช้งานได้อย่างยาวนาน


ดูแลฝ้ากันน้ำให้สวยและทนทาน พร้อมใช้งานได้ยาวนาน

แม้ฝ้ากันน้ำจะถูกออกแบบมาให้ทนทาน แต่การดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ โดยการดูแลแนะนำให้เริ่มต้นจากการหมั่นตรวจสอบสภาพโดยรวมอย่างน้อยทุก 3-6 เดือน สังเกตรอยรั่วซึม คราบความชื้น หรือการเปลี่ยนแปลงของสีและพื้นผิว โดยเฉพาะช่วงก่อนและหลังฤดูฝน และควรทำความสะอาดฝุ่นละอองและหยากไย่อย่างสม่ำเสมอด้วยไม้กวาดขนอ่อนหรือเครื่องดูดฝุ่น โดยสามารถใช้ผ้านุ่มชุบน้ำบิดหมาดเช็ดทำความสะอาดได้ 

หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์รุนแรงซึ่งอาจทำลายพื้นผิวของฝ้า รวมถึงดูแลระบบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ระบบระบายอากาศ ท่อน้ำทิ้ง และรางน้ำฝน ให้อยู่ในสภาพที่ดี ถ้าพบความผิดปกติควรรีบแก้ไขโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ


บริการติดตั้งฝ้ากันน้ำโดย “Q-CHANG” ครอบคลุมทุกบริการเรื่องบ้าน ครบจบในที่เดียว

การติดตั้งฝ้าเพดานกันน้ำ

การติดตั้งฝ้ากันน้ำเป็นงานที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูง เพราะนอกจากการเลือกใช้วัสดุแล้ว การติดตั้งที่ถูกต้องก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อความชื้นอย่างห้องน้ำหรือบริเวณชายคาข้างนอก ที่ต้องการความพิถีพิถันเป็นพิเศษเพื่อป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมและเชื้อราในอนาคต

สำหรับใครที่กำลังมองหาช่างฝ้าหรือช่างซ่อมแซมบ้าน ‘Q-CHANG’ เป็นศูนย์รวมช่างที่มาพร้อมระบบการจองที่สะดวกสบายตลอด 24 ชั่วโมงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพียงแค่ 3 ขั้นตอนง่าย ๆ คือ เลือก จอง และจ่าย ระบบจะล็อกคิวช่างให้ทันที โดยมีบริการให้เลือกกว่า 120 รายการ ครอบคลุมทั้งงานติดตั้ง ต่อเติม และปรับปรุงที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กหรืองานใหญ่ Q-CHANG พร้อมดูแลบ้านของคุณอย่างมืออาชีพ โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่